There's something about money.

About

11/7/56

On 21:50 by Moneytips in    No comments
5 เทคนิคการเลือกซื้อของเล่นลูกอย่างเซียน
206-571_hero_1

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ของเล่นกับเด็กนั้นเป็นของคู่กัน และมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเสื้อผ้า อาหาร เพราะของเล่นที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ลูกน้อยสามารถเสริมสร้างพัฒนาการได้ในหลายๆด้าน ทั้งการพัฒนาทางด้านร่างกาย ด้านอารมณ์ ด้านสติปัญญา การเข้าสังคม และการจินตนาการ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อของเล่นให้ลูกจำนวนมาก ซึ่งอาจเป็นของเล่นคุณพ่อคุณแม่เลือกซื้อเพราะชอบเอง หรือเพราะลูกอยากได้ เมื่อเป็นเช่นนี้จากค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆนี้ อาจกลายเป็นค่าใช้จ่ายก้อนโตจนน่าตกใจ จึงขอเสนอเทคนิคการเลือกซื้อของเล่นลูกให้ได้ประโยชน์และคุ้มค่า ได้ดังนี้

1. เลือกตามพัฒนาการของลูกแต่ละช่วงวัย
เพราะพัฒนาการของลูกน้อยมีการเปลี่ยนแปลงทุกช่วงอายุ ดังนั้นการเลือกของเล่นให้ลูกเล่น คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องศึกษาเพื่อให้สามารถหาของเล่นที่เหมาะสม และช่วยเพิ่มพัฒนาการที่ดีให้กับลูกได้อย่างแท้จริง โดยขอยกตัวอย่างลักษณะของเล่นของเด็กแต่ละวัย ดังนี้
เด็กวัยแรกเกิด – 3 เดือน เด็กจะเริ่มพัฒนาประสาทสัมผัสการมองเห็นและการได้ยิน ดังนั้นโมบายแขวนสีสดใสมีเสียงกรุ๋งกริ๋ง ก็จะช่วยให้เด็กสนใจและกรอกสายตามองตามได้
เด็กวัย 1-2 ปี เป็นวัยที่หัดเดินจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ดังนั้น ของเล่นประเภทที่ลากจูงไปมา ก็จะช่วยดึงดูดให้ลูกอยากเดินลากได้
เด็กวัย 2-4 ปี เป็นช่วงที่เด็กอยากรู้อยากเห็นทุกอย่าง อยากออกแรงเคลื่อนไหวมากๆ ของเล่นที่เหมาะสม จะเป็นจักรยานสามล้อ เตะขว้างลูกบอล
จะเห็นได้ว่าของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการในแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย ไม่จำเป็นต้องเป็นของเล่นที่หลากหลาย เพียงซื้อของเล่นน้อยชิ้นแต่ตรงกับพัฒนาการของลูก ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มาก
2. เลือกซื้อของเล่นไม่ซ้ำแบบเดิม
เมื่อเดินตามห้างสรรพสินค้า บ่อยครั้งจะพบของเล่นที่ดูน่าเล่นมากมาย หลายชิ้นที่ประโยชน์เหมือนกัน เพียงแต่ทำรูปแบบที่สวยงามแตกต่างกันไป เพื่อดึงดูดให้คุณพ่อและคุณแม่ รวมทั้งลูกน้อยอยากได้ ดังนั้นก่อนซื้อของเล่นควรพิจารณาให้ดีๆโดยดูจากประโยชน์จากการเล่นเป็นหลัก ไม่ควรซื้อซ้ำเพราะว่าดูสวยกว่า น่าเล่นกว่า
3. เลือกของเล่นปลายเปิด
ทุกวันนี้เราจะเห็นของเล่นส่วนใหญ่เป็นแบบ “สำเร็จรูป” และมีราคาแพง เพราะวิวัฒนาการทางอุตสาหกรรมจึงสามารถผลิตสิ่งต่างๆได้เหมือนจริง เพียงย่อส่วนเป็นของเล่นได้ไม่ยาก แต่ยิ่งของเล่นมีความเป็น “สำเร็จรูป” มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งปิดกั้นโอกาสที่เด็กจะได้ใช้จินตนาการมากเท่านั้น เพราะการเล่นที่เหมาะสมกับธรรมชาติของเด็กเล็กที่สุด คือการเล่นของเล่นปลายเปิด ที่ไม่เจาะจงว่าจะเป็นอะไร ยกตัวอย่างได้แก่ กิ่งไม้ , เศษผ้า , เปลือกหอย , ก้อนหิน, ทราย เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้ที่จะคิดให้ของเล่นเหล่านี้เป็นสิ่งต่างๆได้ไม่รู้จบ เช่น กิ่งไม้อาจต่อเป็นบ้าน หรือ รถ หรืออาจกลายเป็นกระโปรงเจ้าหญิงก็ได้ ทั้งนี้การจินตนาการอย่างอิสระจากการเล่นนี้ จะส่งผลต่อการพัฒนาการด้านภาษา การเคลื่อนไหว และสมาธิของเด็กอีกด้วย รู้อย่างนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่เก็บของเล่นธรรมชาติให้ลูกได้ฝึกเล่นฝึกคิด นอกจากจะไม่ต้องซื้อของเล่นแล้วยังมีประโยชน์กับลูกน้อยมากกว่าของเล่นราคาแพงเป็นไหนๆ
4. เลือกของเล่นที่ปลอดภัย
นอกจากเลือกของเล่นที่เหมาะสมกับวัยแล้ว ของเล่นที่ปลอดภัยกับลูกก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เด็กเล็กเป็นวัยที่ชอบนำของเล่นเข้าปาก หรือแหย่เข้าจมูก หู ซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ จึงควรเลือกของเล่นที่ไม่มีขนาดเล็กกว่าอวัยวะต่างๆของเด็ก (ไม่เล็กกว่า 3 เซนติเมตร) รวมทั้งสีที่เคลือบวัสดุของเล่น ควรเป็นสี Non-Toxic ไม่หลุดลอก ไม่มีความแหลมคม และไม่แตกหักง่าย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรลองสัมผัสของเล่นก่อนตัดสินใจซื้อให้ลูกเล่น
5. ทำของเล่นให้ลูกเอง
นอกจากการซื้อของเล่นให้กับลูก คุณพ่อคุณแม่อาจประยุกต์ของเล่นของใช้อื่นที่มีอยู่แล้วในบ้าน มาเล่นให้ได้ประโยชน์เดียวกันทดแทนของเล่นชิ้นใหม่ได้ เช่น อาจนำตัวต่อมาเรียงต่อกัน ให้ลูกเอาไม้ตีแทนการเล่นระนาด หรือ ของใช้ประจำวันของคุณพ่อคุณแม่นำมาประยุกต์เป็นของเล่นให้ลูกเล่น ก็สร้างความตื่นเต้นเสริมสร้างพฤติกรรมเลียนแบบให้สนุกได้ง่ายๆ รวมทั้งการลงมือทำของเล่นด้วยตัวเอง นอกจากจะสร้างคุณค่าทางจิตใจที่ดีของลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจที่เห็นลูกเล่นสนุกตามไปด้วย
การเล่นและของเล่นของเด็กเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ เพราะจะเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ที่ซับซ้อนมากขึ้นในช่วงวัยต่อๆมา เด็กที่ขาดโอกาสในการเล่นอาจทำให้ประสบปัญหาการเรียนรู้และมีพัฒนาการล่าช้าได้ อย่างไรก็ดีของเล่นที่ดีสุดของลูกก็คือคุณพ่อคุณแม่เอง ดังนั้นขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่จัดสรรเวลาเพื่อเล่นกับลูกให้มากขึ้นแทนการหาของเล่นเพิ่มขึ้น นอกจากจะช่วยให้ลูกมีพัฒนาการสมวัยได้อย่างแน่จริงแล้ว ยังเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆอีกด้วย

















0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น